สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ของ เชียงใหม่
ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผาชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์
เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ และ มีสถานที่ ท่องเที่ยว หลากหลายมากมาย ทั้งในตัวเมือง เชียงใหม่ และ อำเภอต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยวตาม ธรรมชาติ เช่นภูเขา ถ้ำ น้ำตก หรือ สถานที่ท่องเที่ยว ที่ถูกสร้างขึ้น รวมถึงวัดวาอาราม โบราณสถานต่างๆ
ความที่มี ที่เที่ยว มากมาย เหลือคณานับ ทั่วทุกทิศ ของเชียงใหม่ ก็เลยจะเขียนบอก เป็นเส้นทางๆไป สนใจอะไร จะเลือกเที่ยวที่ไหน วางแผนดูแพลนแผนที่ให้ดี ไม่มีหลง ตกลงกันให้เรียบร้อย ค่อย เดินทาง
เริ่มกันจากในตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วค่อยออกไปเที่ยว ตามอำเภอต่างๆ ไกลใกล้ตามชอบใจ วัดเป็นสถานที่หนึ่ง ที่จะ บอกเรา ได้ว่าในอดีต บ้านนั้น เมืองนั้น เคยมีความเจริญรุ่งเรือง เพียงใด เฉพาะใน เขตคูเมืองเชียงใหม่ ก็น่าจะมีมากกว่า 10 วัด คูเมืองเชียงใหม่ เป็นคูเมืองที่ขุดขึ้น ล้อมพระนคร สมัยสร้างเมือง เชียงใหม่ กว้าง 800 วา ยาว 1000 วา ซึ่งใครไป ใครมา เชียงใหม่ ก็อาจจะเป็นงง กับถนนรอบคูเมืองอยู่บ้าง ขับรถวนไปวนมา หาทาง เข้าทางออกไม่เจอ ก็หน้าตามันเหมือนๆกัน เรื่องนี้ค่อยไปพูดถึง ในเรื่องการเดินทาง ตอนนี้เราไปเที่ยววัด ในเมืองเชียงใหม่กันก่อน
- วัดเชียงมั่น ถนนราชภาคินัย
สร้างขึ้นในสมัย พ่อขุนเม็งราย เมื่อสร้างเมืองเชียงใหม่ เป็นวัด แห่งแรก ของ เชียงใหม่ ภายในวัดเชียงมั่น เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูป เสตังคมณี หรือ พระแก้วขาว เป็นพระพุทธรูปปาง มารวิชัย ที่พ่อขุนเม็งราย ได้อัญเชิญมาจาก หริภุญชัย สมัยพระนาง จามเทวี
- วัดเจดีย์หลวง ถนนพระปกเกล้า
สร้างในสมัย พระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ เม็งราย เมื่อพ.ศ.1944 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากสวรรคตเสียก่อน กษัตริย์องค์ ต่อมาคือ พระเจ้าสามฝั่งแกน ทรงโปรดฯให้สร้างต่อ จนเสร็จ และ ในสมัย พระเจ้าติโลกราช ทรงโปรดฯให้ขยายฐาน และ ความสูง ของเจดีย์ ให้กว้าง และสูงขึ้น
แต่ที่ปัจจุบันเราเห็นยอดเจดีย์ ครึ่งเดียว เนื่องจากในพ.ศ.2088 ได้เกิดแผ่นดินไหว ทำให้ยอดเจดีย์หกโค่นลงมา และ ไม่ได้รับการ บูรณะ ซ่อมแซม จนถึงสมัย เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าเมืององค์สุดท้าย ของเชียงใหม่ โปรดให้บูรณะเฉพาะวัด
องค์เจดีย์ไม่ได้รับการบูรณะแต่อย่างใด นอกจาก วัดเจดีย์หลวง จะเป็นวัดที่มี เจดีย์องค์ใหญ่แล้ว ภายในบริเวณวัด ยังเป็นที่ ประดิษฐาน เสาหลักเมือง หรือ เสาอินทขิล เป็นเสาหลักเมือง เมื่อครั้งพ่อขุนเม็งราย ทรงสร้างเมืองเชียงใหม่
- วัดเจดีย์หลวง ถนนพระปกเกล้า
สร้างในสมัย พระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ เม็งราย เมื่อพ.ศ.1944 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากสวรรคตเสียก่อน กษัตริย์องค์ ต่อมาคือ พระเจ้าสามฝั่งแกน ทรงโปรดฯให้สร้างต่อ จนเสร็จ และ ในสมัย พระเจ้าติโลกราช ทรงโปรดฯให้ขยายฐาน และ ความสูง ของเจดีย์ ให้กว้าง และสูงขึ้น
แต่ที่ปัจจุบันเราเห็นยอดเจดีย์ ครึ่งเดียว เนื่องจากในพ.ศ.2088 ได้เกิดแผ่นดินไหว ทำให้ยอดเจดีย์หกโค่นลงมา และ ไม่ได้รับการ บูรณะ ซ่อมแซม จนถึงสมัย เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าเมืององค์สุดท้าย ของเชียงใหม่ โปรดให้บูรณะเฉพาะวัด
องค์เจดีย์ไม่ได้รับการบูรณะแต่อย่างใด นอกจาก วัดเจดีย์หลวง จะเป็นวัดที่มี เจดีย์องค์ใหญ่แล้ว ภายในบริเวณวัด ยังเป็นที่ ประดิษฐาน เสาหลักเมือง หรือ เสาอินทขิล เป็นเสาหลักเมือง เมื่อครั้งพ่อขุนเม็งราย ทรงสร้างเมืองเชียงใหม่
วัดพันเตา อยู่ติดกับ วัดเจดีย์หลวง ชื่อของวัดน่าจะเพี้ยนมาจาก วัดพันเท่า หรือ วัดปันเต้า ตามสำเนียงคนเมือง สร้างในสมัย พระแก้วเมือง สิ่งที่น่าสนใจ ภายในวัดพันเตาคือ วิหารวัดพันเตา ที่งดงาม ที่คงรักษา เอกลักษณ์ ของล้านนาไว้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าได้รับการบูรณะ ซ่อมแซมไปแล้วก็ตามที ที่แต่เดิมเป็นหอคำ
หรือ ที่ประทับ ของ เจ้ามโหตรประเทศ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ซึ่งต่อมา ในสมัย เจ้าอินทวิชยานนท์ ทรงยกหอคำ ของ เจ้ามโหตร ประเทศถวาย แก่วัดพันเตา เป็นวิหารไม้สักทอง ที่แกะสลัก ลวดลาย ต่างๆ ประดับกระจกสี อย่างงดงาม องค์ประดับหลังคา คล้ายกับ ทั่วไป คือ มีช่อฟ้า รวยระกา หางหงส์ ที่เป็นเครื่องไม้แกะสลัก ประดับกระจก
ที่สันหลังคา ประดับด้วยหงส์โลหะ สีเงินเครื่องประดับหลังคา คล้ายกับทั่วไป คือ มีช่อฟ้า รวยระกา หางหงส์ ที่เป็น เครื่องไม้แกะ สลักประดับ (หลุดไปเกือบหมดแล้ว) ประดับด้วยหงส์ โลหะสีเงิน ระดับหลังคา คล้ายกับทั่วไป คือ มีช่อฟ้า รวยระกา หางหงส์ ที่เป็นเครื่องไม้แกะสลัก ประดับกระจก (หลุดไปเกือบหมดแล้ว) ที่สันหลังคา ประดับด้วยหงส์โลหะสีเงิน
- วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ถนนสามล้าน
วัดพระสิงห์ เดิมเรียกวัดลีเชียง เป็น พระอารามหลวง ของเชียงใหม่ สร้างขึ้นในสมัย พระเจ้าผายู กษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์เม็งราย
ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์ อยู่ในวิหารลายคำ ที่เป็น สถาปัตยกรรม แบบล้านนา ที่งดงาม และ ภายในวิหารลายคำ ยังมี ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่งดงาม ทรงคุณค่า ให้ศึกษา
ประวัติที่มาของ พระพุทธสิหิงค์ กล่าวว่าถูกนำมาประดิษฐานที่ วัดพระสิงห์ใน สมัยพระเจ้าแสนเมืองมา แต่บ้างก็ว่านำมาจาก เมืองเชียงราย บ้างก็ว่า นำมาจาก เมืองกำแพงเพชร นอกจาก วิหารลายคำแล้ว พระอุโบสถ หอไตรแบบล้านนา
และ พระเจดีย์ทรงกลม แบบล้านนา ก็ป็นสถาปัตยกรรม ที่ทรงคุณค่า แก่การชม และ ศึกษา และ ถือว่า วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดประจำปีเกิด ของผู้ที่เกิดปีงูใหญ่ หรือ ปีมะโรง
วัดสวนดอก หรือ วัดบุปผารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นภายใน บริเวณ สวนดอกไม้ ในสมัยพระเจ้ากือนา เมื่อพ.ศ.1914 โปรดฯให้สร้าง พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และ ครูบาศรีวิชัย ได้สร้าง พระวิหาร รูปทรงแปลกกว่า วิหารทั่วไปคือ เปิดโล่งทั้ง 4 ด้าน ประดิษฐานพระเจ้าเก้าตื้อ หนักพันชั่ง (ตื้อ เป็นคำเมือง หมายถึง พันชั่ง) นอกจากนั้น ภายในวัด ยังเป็นที่ตั้ง กู่บรรจุอัฐิของเจ้านาย ตระกูล ณ เชียงใหม่
สันนิษฐานว่า วัดอุโมงค์สร้างขึ้นในสมัย พ่อขุนเม็งราย เพื่อเป็น อนุสรณ์ ในการนำ พุทธศาสนาแบบ ลังกาวงศ์มาประดิษฐาน ใน ล้านนา โปรดฯให้สร้าง พระเจดีย์แบบลังกาตามแบบฉบับ พระเจดีย์ ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นองค์เดียว กับองค์ที่พ่อขุนเม็งรายทรงสร้าง แต่ได้รับการบูรณะใน สมัยพระเจ้ากือนา โดยพอกปูนทับ องค์เจดีย์ เดิมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
วัดอุโมงค์หรือเรียกอีกชื่อว่า สวนพุทธธรรม เป็นที่อยู่ของภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา และ ผู้แสวงหาความสงบ ภายในบริเวณ วัดร่มรื่นด้วยป่าไผ่ และ ต้นไม้ใหญ่ ว่ากันว่าต้นไม้ที่วัดอุโมงค์ พูดได้ ต้นไม้พูดได้อย่างไร ใครอยากรู้ก็ต้องตามไปดู
วัดกู่เต้าสร้างขึ้นสมัยใดไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่ถ้าดูจากเจดีย์ และ พระวิหารแล้ว น่าจะสร้างในสมัยที่ เชียงใหม่ตกเป็นเมืองขึ้นพม่า เนื่องจาก ยังคงมีหลักฐานศิลปะ พม่า ปรากฎอยู่ ที่ยอดเจดีย์ ทรงกลม คล้ายผลแตงโม ซ้อนกัน 5 ชั้น
คือ ฉัตรยอดเจดีย์แบบพม่า พระประธานในวิหาร ก็ยังเป็น พระพุทธรูป ทรงเครื่องแบบพม่า อีกเช่นกัน และ จากหลักฐาน พงศาวดาร พม่ากล่าวว่า
ปี พ.ศ.2156 พระมหาราชามังชวยเทา โปรดฯให้สร้างเจดีย์กู่เต้าขึ้น เพื่อบรรจุพระอัฐิ และ พระอังคาร ของพระเจ้าเม็งชานรธามังดุย (หลังจาก พ่ายต่อ สมเด็จพระนเรศวรฯ พระเจ้าเม็งชานรธามังดุย ประทับอยู่ที่ นครเชียงใหม่ จนสิ้นพระชนม์) วัดกู่เต้า มีชื่อเป็น ทางการว่า วัดเวฬุวนาราม
- วัดเจ็ดยอด ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง
สร้างขึ้นใน สมัยพระเจ้าติโลกราช มหาวิหารของวัดเจ็ดยอด เป็นสถานที่ ที่พระเจ้าติโลกราช โปรดให้ใช้เป็นสถานที่ประชุม พระเถรานุเถระทั่วอาณาจักรล้านนา
เมื่อครั้ง พระองค์ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ทำสังคายนา พระไตรปิฏก ครั้งแรก ในประเทศไทย นับเป็นครั้งที่ 8 ของการสังคายนา พระไตรปิฏก เป็น วิหารก่อด้วย ศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านนอกประดับ ลายปูนปั้น
รูปเทพพนมที่งดงาม ด้านบนเป็นยอดเจดีย์ แบบพุทธคยา ใน ประเทศอินเดีย และ ที่วัดเจ็ดยอดแห่งนี้ พระเจ้าติโลกราช ทรงนำหน่อมหาโพธิ์ ที่ได้มาจาก ลังกา ปลูกไว้ภายในบริเวณวัด วัดเจ็ดยอด จึงมีอีกชื่อว่า วัดมหาโพธาราม หรือ วัดโพธารามมหาวิหาร
พระสถูปเจดีย์ บรรจุพระอัฐิ พระเจ้าติโลกราช ตั้งอยู่ภายในบริเวณ วัดเจ็ดยอด ผู้คนนับถือกันว่า วัดเจ็ดยอด เป็นวัดประจำปีเกิด ผู้ที่เกิดปีงูเล็ก หรือปีมะเส็ง
ถนนช้างม่อย ตัดใหม่ บริเวณถนนท่าแพ สร้างเมื่อใดไม่ปรากฏ หลักฐาน แต่ได้รับอิทธิพล จาก พม่าดูจากเจดีย์ที่เป็นทรงระฆัง ศิลปะพม่า ฐานเจดีย์ย่อมุม ประดับด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ องค์เจดีย์ประธาน สีทอง ลักษณะคล้ายกับ เจดีย์ชเวดากอง ของ พม่า ตามมุมทั้ง 4 มีรูปปูนปั้น รูปสิงห์ ตั้งอยู่ และ พระวิหาร ของ วัดแสนฝางก็มี ความงดงามไม่แพ้กัน
ประดิษฐานอยู่ที่หน้า ศาลากลางเก่า บริเวณสี่แยก ถนนพะ เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่ชาวเชียงใหม่ ร่วมใจกัน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2526 เป็นรูปปั้นเท่าตัวจริง ของ กษัตริย์ร่วมน้ำสาบาน 3 พระองค์ถ้าหันหน้าเข้าหาอนุสาวรีย์ ตรงกลางคือ พ่อขุนเม็งราย ซ้ายมือคือ พ่อขุนงำเมือง และพ่อขุนรามคำแหงฯ อยู่ด้านขวามือ
การเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่
เดินทางโดยรถส่วนตัว
- เส้นทางแรก จากกรุงเทพฯใช้เส้น ทางหลวงหมายเลข 32 หรือสายเอเชีย ผ่านอยุธยา ถึงนครสวรรค์ ใช้ทางหลวง หมายเลข 1ไปกำแพงเพชร ผ่านตาก เมื่อถึงอำเภอเถิน แยกซ้ายเข้า ทางหลวง หมายเลข 106 ผ่านอำเภอลี้ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 690 กิโลเมตร
- เส้นทางที่สอง จากกรุงเทพฯเดินทางตาม เส้นทางแรก ผ่านอำเภอเถินไปจนถึงจังหวัดลำปาง แยกซ้ายเข้าสู่ ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านอำเภอห้างฉัตร อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ผ่านอำเภอสารภี ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 695 กิโลเมต
เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
มีให้เลือกใช้บริการทั้งของเอกชนและ ของรัฐวิสาหกิจ จะนั่งรถธรรมดา หรือรถปรับอากาศตามแต่ชอบใจ ราคาก็แตกต่างกันไป ออกเดินทางจากกรุงเทพฯที่ สถานีขนส่งสายเหนือ หรือหมอชิตใหม่ ที่ถนนกำแพงเพชร 2 ถึงสถานีขนส่งอาเขต จังหวัดเชียงใหม่ทุกวัน
เดินทางโดยรถไฟ
จากกรุงเทพฯ สถานีรถไฟหัวลำโพง วิ่งไปสุดทาง ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ มีรถวิ่งให้บริการทุกวัน ทั้งรถเร็ว รถด่วน รถด่วนพิเศษนครพิงค์ และรถด่วนพิเศษสปรินเตอร์ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางช้า-เร็วต่างกัน
เดินทางโดยเครื่องบิน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งสายการบินต้นทุนต่ำ (low cost) และไม่ต่ำ อาทิเช่น สายการบินไทย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ และสายการบินแอร์เอเชีย ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ แต่ถ้าใครบ้านอยู่ใกล้ดอนเมือง ก็สามารถใช้บริการ สายการบินนกแอร์ ที่ออกจากสนามบินดอนเมืองได้
การเดินทางในเชียงใหม่
ถ้าใครไม่ได้ขับรถส่วนตัวไปเอง จะไปเที่ยวไหนก็นั่งรถ สองแถวสีแดงที่วิ่งอยู่ทั่วเมืองได้ โบกให้จอดให้ส่งได้ทุกที่ ไม่มีปรับค่าโดยสารตอนนี้ ก็น่าจะเริ่มต้นที่ 10 บาท ถูกแพงตามระยะทาง ต่อรองได้บ้างตามความสามารถ ส่วนบุคคล หรือจะเช่ารถขับก็มีให้เลือกหลายเจ้า หลายบริษัท ทั้งของไทยของเทศ
ความที่เชียงใหม่เจริญไม่ต่างจากกรุงเทพ การกินการอยู่ มีให้เลือกหลายหลากมากมาย แต่ถ้าต้องการลองลิ้มชิม อาหารพื้นเมือง หรืออยากรู้ว่าคนเมืองเขากินอยู่อย่างไร ก็แนะนำให้ไปเดินตลาด หรือกาดไม่ว่าจะเป็นกาดหลวง (ตลาดวโรรส) กาดประตูเชียงใหม่ และกาดสมเพชร เป็นต้น
ไปเชียงใหม่มาแล้ว ชอบหรือไม่อย่างไร เขียนมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
สถานที่ท่องเที่ยว ตามเส้นทางหลวง หมายเลข 1004 ห้วยแก้ว
เส้นทาง 1004 ห้วยแก้ว เป็นทางหลวงที่อยู่ในตัวเมือง เป็นถนนที่นำไปสู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่
สวนสัตว์เชียงใหม่
เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ บริเวณภายในกว้างขวาง ร่มรื่น ด้วย ต้นไม้ใหญ่น้อย มีสัตว์มากมาย หลายชนิด ทั้งที่เป็น สัตว์ที่มีอยู่ ในประเทศไทยและ ที่นำมาจากต่างประเทศ มีสวนนก พิพิธภัณฑ์ สัตว์น้ำ ในสมัยก่อน น้อยคนนัก ที่ไปเชียงใหม่แล้ว จะไปเที่ยว สวนสัตว์ เชียงใหม่ แต่ปัจจุบัน บางคนตั้งใจไปสวนสัตว์โดยเฉพาะ เพื่อไปดู หลินปิง แพนด้าน้อย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
ครูบาศรีวิชัย เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาวล้านนานานัปการ เช่น เป็นผู้ชักชวน ชาวบ้าน สร้างถนนขึ้นไปยัง วัดพระธาตุ ดอยสุเทพ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ตั้งอยู่เชิงดอย สุเทพ เลยสวนสัตว์เชียงใหม่ไปไม่ไกล
น้ำตกห้วยแก้ว
เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูงประมาณ 8-10 เมตร ท่ามกลางธรรมชาติ อันร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน หย่อนใจ เหนือน้ำตกเป็น วังบัวบาน แอ่งน้ำที่มีตำนาน
ดอยปุย
เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) ที่สามารถ เดินดูสภาพ ความเป็นอยู่ของชาวเขา และ ทิวทัศน์ที่สวยงามได้ ภายในหมู่บ้าน มีร้านขายของ ที่ระลึกของชาวเขา และ มีชุดชาวเขา ให้เช่า ใส่ถ่ายรูป สำหรับผู้ที่สนใจ
พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
เป็นพระตำหนัก แปรพระราชฐาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวฯ และ พระบาทสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยรอบพระตำหนัก ประดับด้วย สวนดอกไม้เมืองหนาว กุหลาบ ดอกโตใหญ่ เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ใน วันศุกร์ – อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ในช่วงเวลาที่ไม่มีการเสด็จ แปรพระราชฐาน
วัดพระธาตุดอยสุเทพ
พระธาตุดอยสุเทพเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะแม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา ตามประวัติกล่าวว่า พระสุมนะ จากเมืองสุโขทัยได้นำพระบรมธาตุไปถวายพระเจ้ากือนา พระองค์ได้อัญเชิญผอบ ที่บรรจุพระบรม สารีริกธาตุ ขึ้นสถิต เหนือช้างพระที่นั่ง แล้วทรงอธิษฐานว่า แม้นพระบรมธาตุ ประสงค์จะสถิตอยู่ ณ ที่ใดแล้ว ก็ขอให้ช้างทรงหยุดอยู่ ณ ที่นั้น แล้วทรงปล่อยช้างพระที่นั่งไป
ปรากฏว่าช้างพระที่นั่งไปหยุด ณ ดอยสุเทพ พระเจ้ากือนา จึงทรงสร้างพระเจดีย์บรรจุ พระบรมธาตุไว้บน ดอยสุเทพ และ ด้วยความร่วมแรง ร่วมใจ และ ศรัทธา ของชาวบ้าน ที่มีต่อ ครูบาศรีวิชัย ได้ช่วยกัน สร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ จาก ห้วยแก้วไป จนถึงบันไดนาค เพื่อให้ประชาชน สามารถ ขึ้นไปนมัสการ องค์พระธาตุ ได้สะดวกขึ้น ซึ่งไม่ได้ใช้เงินหรือ งบประมาณ ของ หลวงเลย
บันไดนาคที่ทอดยาวกว่า 300 ขั้นนำขึ้นสู่ องค์พระเจดีย์ สีทอง สุกอร่าม บริเวณโดยรอบเป็นลานกว้าง ในวันฟ้าใส สามารถมอง ลงมาชมเมืองเชียงใหม่ได้ไกลสุดสายตา
สถานที่ท่องเที่ยว ตามทางหลวงสาย 107 หรือ สายเชียงใหม่-ฝาง-ท่าตอน
สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
มีเนื้อที่หลายพันไร่ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ หายาก ทั่วสารทิศ ของประเทศไทย เป็นศูนย์กาเรียนรู้ด้านพืช ที่ตั้งของ สวนฯ เป็นที่ราบสลับที่สูง ที่มีความสูง ตั้งแต่ 300 – 1,000 เมตร
ปกคลุมด้วย พรรณไม้ หลาก หลายชนิด ภายในสวนฯมี เส้นทาง เดินศึกษาธรรมชาติและ พันธุ์ไม้นานาชนิด อาทิเช่น ไม้ดอกไม้ประดับ พืชสมุนไพร พันธุ์ไม้เลื้อย พืชเขตแล้ง กล้วยไม้ เฟิน สัปปะรดสี บัว และไม้น้ำนานาพันธุ์
เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา นอกจาก เป็น เขื่อนเก็บน้ำ เพื่อการเกษตร และผลิตไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของชาวเชียงใหม่
สามารถ ล่องเรือ ชมธรรมชาติ และความงามของ ทัศนียภาพ รอบเขื่อนได้ และยังเป็นแหล่ง ดูนกนานาชนิดแห่งหนึ่ง ของเชียงใหม่ ที่อยู่ไม่ไกล จาก ตัวเมือง เชียงใหม่ ทางเข้า อยู่บริเวณ หลัก กิโลเมตรที่ 41 ขวามือมีป้ายบอกทางเข้าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เลี้ยวขวา เข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร
ศูนย์ฝึกช้างเชียงดาว
ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 56 กิโลเมตร อยู่ติด แม่น้ำปิง เป็นสถานที่ฝึก และ จัดการแสดง ของ ช้างเช่น การลาก ซุง การชักไม้ หลังจากชม การ แสดง แล้ว สามารถ นั่งช้างชม ทัศนียภาพ บริเวณ รอบๆได้
ถ้ำเชียงดาว เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในถ้ำโอ่โถง มี หินงอก หินย้อยที่สวยงาม ภายใน ถ้ำ มีเส้นทางเดินชม 2 เส้นทาง
- เส้นทางแรก ระยะทางประมาณ 400 เมตร ไปถ้ำพระนอน ข้างในถ้ำ เป็นที่ ประดิษฐาน พระพุทธรูป ปางไสยาสน์ ตามทางเดินติดไฟสว่างพอเดินชมได้ อย่างสะดวก เสียค่า เข้าชมเล็กน้อย
- เส้นทางที่สอง ระยะทางประมาณ 750 เมตร ระหว่างทางเดิน ไม่ได้ติดไฟฟ้า เพื่อให้แสงสว่าง เพราะ จะไปยับยั้ง การเกิด ของหินงอกหินย้อยที่ยังคงมีอยู่ ด้านมีหินงอก หินย้อย ที่สวยงาม และ มีชื่อเรียก ตามรูปร่างหรือ ตาม จินตนาการ ที่มองเห็น เช่น หินรูปม้า รูปช้าง รูปไก่ฟ้า เป็นต้น ใช้เวลา ในการเข้าชม ประมาณ ครึ่งชั่วโมง ซึ่งต้อง เสีย ค่าเข้าชม เพิ่ม สำหรับไกด์ นำทางและค่าตะเกียงเจ้าพายุ อยู่ห่าง จากตัวเมืองเชียงใหม่ราว 72 กม. จากนั้น เลี้ยวซ้าย เข้าไปอีก 5 กม.
บ่อน้ำร้อนฝาง
ประกอบไปด้วยบ่อน้ำร้อน เล็กใหญ่ หลายสิบบ่อ เมื่อไปถึง จะได้กลิ่น กำมะถัน คลุ้งไปทั่วบริเวณ ความร้อน ของน้ำ ประมาณ 90 - 130 องศาเซลเซียส บางบ่อ มี ความดัน น้ำพุ่งขึ้นสูง สู่อากาศ บ่อน้ำร้อนฝาง อยู่ ห่างจากตัวอำเภอฝาง ไปทางทิศ ตะวันตก เฉียงเหนือ ประมาณ 10 ก.ม.
โรงกลั่นน้ำมันฝาง
อยู่ก่อนถึงตัวอำเภอฝางประมาณ 7 กม. มีทางแยก ขวามือ เข้าไป มีนิทรรศการ ความรู้เกี่ยวกับการกลั่นน้ำมัน
โครงการหลวงห้วยลึก
ตั้งอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 95 ของ ทางหลวง สายเชียงใหม่-ฝาง เลี้ยวขวา เข้าไปประมาณ 500 เมตร จัดตั้งขึ้น เพื่อ ดำเนินการ เกี่ยวกับ ที่ทำกิน ให้แก่ชาวเขา เผ่าม้ง กะเหรี่ยง และ ชาวบ้าน บริเวณ พื้นที่ใกล้เคียง โดยการส่งเสริม วิจัย และ เพาะพันธุ์ ไม้ผล และไม้ดอกเมืองหนาว สามารถเดินชม แปลงดอกไม้ได้ ปากทางเข้า โครงการหลวงฯ มีร้านอาหาร และ ร้านดอยคำ ให้บริการ
ดอยอ่างขาง
เป็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ที่ทำการวิจัย ไม้เมืองหนาว ทั้งผัก ผลไม้ และไม้ดอก อีกทั้งพืชไร่ เพื่อส่งเสริม ให้ชาวเขาปลูก ทดแทนการปลูกฝิ่น เมื่อแรก เริ่มได้ทดลองปลูกแอปเปิ้ล สาลี่ และไม้เมืองหนาวอื่นๆอีก 2-3 ชนิด เมื่อได้ผล เป็นที่น่าพอใจ จึงได้ทดลองปลูก ขยายพันธ์พืช ผัก ผลไม้ประเภทอื่น เช่น แมคคาดาเมีย, กีวี่, อโวคาโด, ลูกพีช, ลูกแพร์ และดอกไม้ต่างๆ เช่น ลิลลี่, ทิวลิป, คาร์เนชั่น ออก ดอก เบ่งบาน อวดโฉม ให้เห็นทั่วทั้งแปลง และ ได้ขยายพื้นที่ ในการเพาะพันธุ์ไม้ ออกไป
ในส่วนของ สวนบอนไซและ พรรณไม้ เขตกึ่งร้อนและหนาว มีทั้งสนดัด บอนไซต่างๆ กระบองเพชรหลากชนิด และ พันธุ์ไม้หายาก ประจำถิ่นคือ เฟินข้าหลวงอ่างขาง สวนสมุนไพร ชาวเขา เป็น แหล่ง อนุรักษ์ สมุนไพรและ ต่อเติม ภูมิปัญญาการแพทย์ แผนโบราณ ไม่ให้สูญหาย
ท่องเที่ยวตามทางหลวง สาย 1006 หรือ สายเชียงใหม่ - สันกำแพง
บ้านต้นเปา
เป็นหมู่บ้านทำกระดาษสา ผู้สนใจ สามารถ ชมขั้นตอนการผลิตได้ อย่างใกล้ชิด และ สามารถเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์จากกระดาษสาหลากหลาย รูปแบบ เช่น สมุด เชือก กระดาษเขียนจดหมาย การ์ดอวยพรและอื่นๆ
หมู่บ้านทำร่มบ่อสร้าง
เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงทำร่ม ที่เป็นเอกลักษณ์ของเชียงใหม่ มีทั้งร่มและพัดจีนที่ทำจากกระดาษสา ผ้าฝ้าย และผ้าแพร แบบเรียบๆ หรือมีลวดลาย มีขนาดตั้งแต่ 3 นิ้ว จนถึง 60 นิ้ว
สันกำแพง
เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของคนสันกำแพง ที่นี่สันกำแพง มีชื่อเสียง ในด้านการทอผ้าไหม และ ผ้าฝ้าย อยู่ห่างจากตัวเมือง เชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออก 13 กิโลเมตร
บ่อน้ำพุร้อน
ตามเส้นทางนี้มีบ่อน้ำพุร้อนที่ตกแต่ง สถานที่ด้วย สวนดอกไม้สวยงาม ปลูกประดับมากมาย มีห้องอาบน้ำแร่ ที่พัก สถานที่กางเต็นท์ ร้านอาหาร มีบ่อสำหรับต้มไข่โดยเฉพาะ ได้แก่ น้ำพุร้อนสันกำแพง อยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 34 กิโลเมตร สามารถไปได้ 2 ทางด้วยกัน คือ เส้นทางเชียงใหม่ - สันกำแพง - สถานีเพาะพันธู์กล้าไม้สัก - น้ำพุร้อน ( เส้นทางนี้จะผ่าน ถ้ำเมืองคอน ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำพุร้อน 4 กิโลเมตร) หรือ เส้นทางเชียงใหม่ -สันกำแพง - หมู่บ้านออนหลวย - น้ำพุร้อน
อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้
ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดเชี่ยงใหม่ และ ลำพูนสภาพเป็น ภูเขาสลับซับซ้อน เป็นต้นน้ำหลายสาย ซึงเป็นหนึ่งในแม่น้ำแม่ปิง อุดมไปด้วยสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ที่น่าสนใจ อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้ น้ำตกตาด เหมย น้ำตกแม่ตะไคร้ และ ดอยลังกา
สถานที่ท่องเที่ยว ตามเส้นทางหลวง หมายเลข 1009 หรือ สายจอมทอง-อินทนนท์
เป็นเส้นทางนำไปสู่ ยอดเขาที่สูงที่สุด ของประเทศไทย ที่แยกจากทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-ฮอด
น้ำตกแม่กลาง
เป็นน้ำตกที่มีความงามไม่แพ้น้ำตกใดๆในเชียงใหม่ เกิดจาก ลำน้ำแม่กลางที่มีต้นน้ำ อยู่บนดอยอินทนนท์ มีความสูง ประมาณ100 เมตร น้ำตกแม่กลาง เป็นน้ำตกที่ไหล ผ่านหน้าผาขนาดใหญ่ สู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง สามารถลงเล่นน้ำได้ ตลอดทุกฤดูกาล
ถ้ำบริจินดา
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ อยู่ในเทือกเขา ดอยอ่างกา หรือ ดอยอินทนนท์ อยู่ใกล้กับน้ำตกแม่กลาง ถ้าเดินทางจาก จ.เชียงใหม่ ตามถนนสายเชียงใหม่-ฮอด จนถึงระยะทาง 58 กิโลเมตร เลี้ยวขวา เข้าไปยังน้ำตกแม่กลางอีก 8 กิโลเมตร จะถึงทางแยกขวามือขึ้นดอยอินทนนท์อีก 1 กิโลเมตร ที่ทางแยกขวามือ มีป้ายบอกทางไปถ้ำบริจินดา
ภายในถ้ำ มีความลึกหลายกิโลเมตร เพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อย หรือ ชาวเหนือเรียกว่า “นมผา” สวยงามมาก มีพระพุทธรูป ประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย นอกจากนั้นยังมีธารหิน เมื่อมีแสงสว่าง มากระทบ จะเกิดประกาย ระยิบระยับ ดังกากเพชร สวยงามมาก ลักษณะของถ้ำเป็นถ้ำทะลุ สามารถ มองเห็นภายในได้ถนัด เพราะมีอุโมงค์ซึ่งแสงสว่างลอดเข้ามา ก่อนจะถึงปากถ้ำ มีป้ายขนาดใหญ่อธิบาย ถึงประวัติการค้นพบถ้ำนี้
น้ำตกแม่ยะ
เป็นน้ำตกขนาดกว้างใหญ่ สูงตระหง่านราว 260 เมตร มองเห็นได้จากระยะไกล ตัวน้ำตกเป็นชั้นหินลดหลั่นลงมา เป็นชั้นๆ สายน้ำที่ตกลงมา กระเซ็นเป็นละอองน้ำสีรุ้งยาม กระทบกับแสงแดด มีแอ่งน้ำกว้างให้ลงเล่นน้ำได้ ว่ากันว่าน้ำตกแม่ยะเป็นน้ำตก ที่สวยที่สุดของประเทศไทย
น้ำตกวชิรธาร
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เดิมชื่อ “ตาดฆ้องโยง” ตัวน้ำอยู่สูงจาก ระดับน้ำทะเลประมาณ 750 เมตร และน้ำจะไหลจากหน้าผาข้างบน ตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ตรงข้ามมีหน้าผาสูงชันเรียกว่า “ผาม่อนแก้ว” ภายหลังเรียกให้เพราะ ขึ้นว่า “ผากรแก้ว”
การเดินทางค่อนข้างสะดวก จากเชิงดอยอินทนนท์ขึ้นไป ถึงกิโลเมตรที่ 21 จะเห็นป้ายบอกทาง แยกขวา เข้าน้ำตก ซึ่งจะต้อง เดินเท้าเข้าไป อีก 351 เมตร จึงจะถึงน้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ เป็นน้ำตกคู่ ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน เป็นทางยาวสวยงามมาก แต่เดิมเรียกว่า “เลาลี” ตามชื่อของหมู่บ้านม้ง (แม้ว) เลา ลีซึ่งอยู่ใกล้ๆ น้ำตก น้ำตกตั้งอยู่ตรงกิโลเมตรที่ 30 มีทางแยกเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร แต่รถไม่สามารถเข้าไปใกล้ตัวน้ำตกได้ นักท่องเที่ยว สามารถ มองเห็นน้ำตกสิริภูมิ ได้ในระยะไกล คือมองดูจากหมู่บ้านแม้ว เท่านั้น
สถานีโครงการหลวง ดอยอินทนนท์
ตั้งอยู่ที่บ้านขุน กลาง ต.ห้วยหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อยู่ในบริเวณ ใกล้กับ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์เรียกอีกชื่อว่า สถานีเกษตรดอยขุนกลาง เป็นสถานีวิจัยฯ ที่จัดตั้งขี้นเมื่อ พ.ศ.2522 ตามพระราชดำริ ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงต้องการ เพิ่มอาชีพและ
รายได้อย่างยั่งยืน ให้ชาวม้งที่อาศัย อยู่บริเวณนั้น เพื่อให้เลิกปลูกฝิ่น และเลิกทำไร่ เลื่อนลอย ผู้ที่ไปเที่ยวชม สามารถเข้าชม แปลงปลูกดอกไม้ ไม้ประดับ พืชผักผลไม้ เมืองหนาว การทำเกษตรอินทรีย์
บ่อทดลองเลี้ยงปลาเรนโบว์เทร้าท์ หลังจากชม แล้วก็สามารถ เลือกซื้อ ผลผลิตต่างๆ ของโครงการหลวงได้จาก ร้านค้าภายในโครงการ หรือ รับประทานอาหารหลากหลายเมน ที่ทำจากผลิตผลของโครงการฯ หลัง จากรับประทานอาหาร อิ่มอร่อย เดินย่อย อาหาร ไปชมน้ำตกสิริภูมิทางด้านหลัง โครงการฯ ระยะทางเดินราว 680 เมตร
น้ำตกสิริภูมิ
ชื่อของน้ำตกมาจากพระนามของสมเด็จ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ลักษณะของน้ำตกที่เป็นสายน้ำ สองสายไหลตกคู่กันลงมาจากหน้าผาสูง สามารถมองเห็น ได้แต่ไกล ชื่อเดิมของน้ำตกสิริภูมิคือ น้ำตกเลาลี
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
อยู่ในความดูแลของกองทัพอากาศ พระมหาธาตุ 2 องค์นี้ไม่ได้สร้างขึ้น พร้อมกัน องค์แรกคือ พระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างเมื่อพ.ศ.2530 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ใน วโรกาสที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญ พระชนมายุ ครบ 60 พรรษา องค์ที่สอง พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาส ที่สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา เมื่อพ.ศ.2535 ภายในพระมหาธาตุ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และ พระพุทธรูป บริเวณโดยรอบ องค์พระธาตุ ประดับตกแต่ง ด้วยไม้ดอกเมืองหนาวหลากสีสัน
ยอดดอยอินทนนท์
ยอดดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ในประเทศไทย สูง 2,565 เมตร เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ กม.ที่ 48 มีสภาพอากาศ หนาวเย็นตลอดทั้งปี ณ จุดสูงสุด เป็นที่ตั้งสถูปเจ้าอินทรวิชยานนท์
ด้านหลังสถูปเป็นหลักหมุด จุดที่สูงที่สุดของประเทศไทย ในบริเวณนี้จะพบต้น “ข้าวตอกฤาษี” (Sphagnum Moss) ขึ้นตามพื้นดิน คาคบไม้มีสีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังมี พืชหายาก หลากหลายชนิด เช่น กุหลาบพันปี ซึ่ง จะออกดอกในช่วงเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี ข้าวตอกฤาษี นกกินปลี นกประจำถิ่นของดอยอินทนนท์ ชื่อที่ชาวบ้านเรียก กันมาแต่โบราณ
อ่างกาหลวง
เป็นแอ่งน้ำซับขนาดใหญ่ อยู่ ณ จุดสูงที่สุดของประเทศ ในแอ่งน้ำมีซากใบไม้ทับถมกันเป็นชั้น หนาคล้ายป่าพรุ เป็นแหล่งต้นน้ำ ที่ไหลลงสู่ลำน้ำปิง ทางอุทยานฯทำ ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่ยกพื้นขึ้นมาเป็น สะพานยาวไปรอบอ่างกาหลวง ตามเส้น ทางเดินจะได้พบเห็นต้นกุหลาบพันปี ดอกสีแดง (ออกดอกประมาณ เดือนมกราคม-มีนาคม)
ท่องเที่ยว ตามเส้นทางหลวง หมายเลข 108 หรือสายเชียงใหม่-ฮอด
ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่
เป็นสถานที่รวบรวมศิลปะ และ วัฒนธรรม ล้านนา ภายใน จัดแสดง บ้านทรงไทยสร้างด้วยไม้สัก บานประตู หน้าต่างประดับด้วยไม้ แกะสลัก มีหมู่บ้านชาวเขา เผ่าต่างๆให้เที่ยวชม และ ร้านขายของ ที่ระลึกให้เลือกซื้อ นอกจากนี้ ในตอนค่ำ ที่ ศูนย์วัฒนธรรม เชียงใหม่ มีการแสดง ฟ้อนรำแบบล้านนา พร้อม การรับประทาน อาหาร พื้นเมืองที่เรียกว่า ขันโตก ให้ผู้ที่สนใจ ได้สัมผัส เป็นประสบการณ์
บ้านเมืองกุง
เป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผา มาแต่โบราณ เครื่องปั้นดินเผา ที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นคนโทน้ำ แจกัน อยู่ประมาณ กิโลเมตรที่ 10 จากตัวเมือง
บ้านถวาย
ทางเข้าอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 15 เป็นหมู่บ้าน ที่ทำ ผลิตภัณฑ์ ไม้แกะสลัก มีทั้งที่นำไม้เก่ามาทำ เป็นผลิตภัณฑ์ สมัยใหม่ และ แบบที่นำไม้ใหม่มาทำเป็น ผลิตภัณฑ์เลียนแบบของเก่า ไม่ว่า จะเป็น ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่าง ของแต่งบ้าน เครื่องประดับ โมบาย กรอบรูป หรือ จะเป็นของ ชิ้นใหญ่อย่าง บานหน้าต่าง บานประตู ฉาก เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
วัดพระธาตุ ศรีจอมทองวรวิหาร
วัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นที่เคารพ สักการะของชาวเชียงใหม่ มีประวัติ มาก่อนที่จะสร้าง ขึ้น เป็นวัดในสมัย พระเจ้าติโลกราช เจ้าผู้ครอง นครเชียงใหม่ เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมธาตุ ที่มิได้ ฝังไว้ใต้ดิน พระบรมธาตุ ประดิษฐาน อยู่ใน ผอบทองคำ ใน พระโกศ ที่ประดิษฐาน อยู่ใน มณฑปปราสาทที่พระแก้วเมือง ทรงสร้างถวาย ภายในพระวิหาร เป็นมณฑปก่ออิฐถือปูน สลัก ลวดลายวิจิตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง 4 เมตร สูง 8 เมตร หุ้มทองทั้งองค์ สร้างโดย พระรัตนราช องค์พระธาตุ ก่ออิฐ ถือปูน สลักลวดลายวิจิตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยม จัตุรัส กว้าง 4 เมตร สูง 8 เมตร หุ้มทองทั้งองค์ พระธาตุ ศรีจอมทอง ถือว่า เป็นพระธาตุ ประจำปีเกิด ของผู้ที่เกิด ปีชวด วัดพระธาตุ ศรีจอมทอง อยู่ห่างจาก ตัวเมืองเชียงใหม่ราว 58 กิโลเมตร
บ้านไร่ไผ่งาม
เป็นบ้านของป้าแสงดา บันสิทธิ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาหัตถกรรม สิ่งทอ และ ขั้นตอนการทอผ้า ด้านบนของบ้าน เป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงผลงานผ้าทอ และ ชีวประวัติ ของป้าแสงดา ผู้ที่ไป เยี่ยมชม จะได้เรียนรู้วิธีการ ทอผ้า และ เลือกซื้อผ้าทอทั้งผ้าฝ้าย ผ้าไหม ย้อมสีธรรมชาติ ของชาวบ้าน ที่ได้รับการ สืบทอดมาจาก ป้าแสงดา บริเวณ บ้านไร่ไผ่งาม ยังร่มรื่นด้วยทิวไผ่ และ ลมเย็น จากลำน้ำปิง
ออบหลวง
ออบหลวงตามภาษาท้องถิ่น หมายถึง ช่องแคบขนาดใหญ่ มีลักษณะ เป็นช่องแคบ ที่มี หน้าผา สูงชัน ขนาบลำน้ำแม่แจ่ม ก่อให้เกิดเป็นหุบเหว ลึกประมาณ 32 เมตร ส่วนที่แคบที่สุด กว้าง 2 เมตร แนวช่องแคบ ยาวประมาณ 300 เมตร แม่น้ำที่ไหลผ่าน ช่วงนึ้จะ เชี่ยวมาก เมื่อกระทบหิน จึงเกิดเสียง ดังสนั่น เพื่อให้ สามารถ ชม ความมหัศจรรย์ และ ความงาม ที่ ธรรมชาติ รังสรรค์ขึ้น ทางอุทยาน แห่งชาติออบหลวง ได้สร้าง สะพานไม้ ทอดพาดช่องแคบ เพื่อให้เดิน ชมทัศนียภาพ ของออบหลวงได้ ระยะทาง จาก ตัวเมืองเชียงใหม่ ถึงออบหลวงประมาณ 105 กิโลเมตร
ทะเลสาบดอยเต่า
เป็นทะเลสาบที่เกิดขึ้นจากการสร้าง เขื่อนภูมิพล มีเรือหางยาว และ เรือแพ ให้บริการ ล่องชม ความงาม ของ ทะเลสาบ ดอยเต่า ในฤดูหนาว หมอกจะลอย อ้อยอิ่ง เหนือทะเลสาบ เป็นภาพ ที่สวยงามยิ่ง
เที่ยวตามทางหลวง 1096 สายแม่ริม-สะเมิง
สถานที่ท่องเที่ยวบนถนนสาย 1096 นี้ สถานที่ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติจะมีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง ส่วนใหญ่เป็นสถาน ที่ท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นทั้งนั้น ซึ่งจะต้องเสียค่าเข้าชมทั้งสิ้น ถ้าเราเลี้ยวเข้า ทางหลวงหมายเลข 1096 จากถนนโชตนา (สาย 107) เราจะเจอสถานที่ท่องเที่ยวต่อไปนี้
- ใบออร์คิด-บัตเตอร์ฟลายฟาร์ม เป็นทั้งสวนกล้วยไม้และสวนผีเสื้อ ซึ่งจะต้องเสียค่าเข้าชม และยังมีร้านอาหารไว้บริการด้วย (07.30-17.00น.)
- สวนกล้วยไม้และฟาร์มผีเสื้อสายน้ำผึ้ง เป็นสวนกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ (08.00-17.00น.)
- ฟาร์มงูแม่สา เป็นฟาร์มงูที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ ซึ่งรวบรวมงูหลากหลายสายพันธุ์ทั่วประเทศ มาไว้ให้ได้ศึกษา ที่นี่ที่เดียว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้ชม การจับงูโดยหมองู ผู้เชี่ยวชาญ โดยจะเปิด ให้ชมการแสดงวันละ 3 รอบ คือ เวลา 11.30 / 14.15 / 15.30น. แต่ละรอบใช้เวลาแสดงประมาณ 30 นาที (09.00-16.00น.)
- สนามยิงปืนแม่ริม
- วัดน้ำตกแม่สา
- สวนสัตว์แมลงสยาม เป็นสถานที่ที่มีแมลงสวยงามจัดแสดงมากที่สุดในไทย และ ยังเป็นสถานที่เพาะ เลี้ยงและแสดงแมลงที่มีชีวิตให้ได้ชมกันอีกด้วย (09.00-17.00น.)
- โรงเรียนลิง
- ฟาร์มงูแม่ริมเชียงใหม่
- สวนบัวแม่สาออร์คิด แหล่งรวมกล้วยไม้และบัวหลากหลายชนิดไว้ในที่เดียว
- สวนกล้วยไม้แม่แรม หรือ แม่แรมออร์คิด มีการปลูกพันธุ์กล้วยไม้นานาชนิด ตลอดจนการสาธิต และ จำหน่ายสินค้าที่ระลึก ประเภทเครื่องประดับจำพวกเข็มกลัด ต่างหู สร้อย ซึ่งทำจากกล้วยไม้ ใบไม้ และ แมลงต่างๆ รวมทั้ง มีฟาร์มผีเสื้อด้วย (07.00-17.00น.)
- น้ำตกแม่สา อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นน้ำตก 10 ชั้น ที่มีสายน้ำไหลตลอดทั้งปี ชั้นที่สวยที่สุด คือ ชั้นที่ 5-7 ในช่วงปลายฤดูฝนจะมีความสวยงามที่สุด (08.00-17.00น.)
- ปางช้างแม่สา เป็นหมู่บ้านช้างที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย ผู้มาเยือนจะได้สัมผัส ประสบการณ์ การนั่งช้าง การฝึกช้าง อาบน้ำ ให้ช้าง หรือดูช้างวาดภาพ
- แม่สาวัลเลย์
- สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศ ที่เป็นมาตรฐาน สากล เป็นศูนย์รวมพรรณไม้ไทย ทำหน้าที่เป็นศูนย์ศึกษา และ ค้นคว้า วิจัย ทางด้านพฤกษศาตร์ ด้านความหลากหลาย ทางชีวภาพ และ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- บ้านม้ง (แม้ว) แม่สาใหม่ เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ ที่นี่ นักท่องเที่ยว จะได้ชมวิถีชีวิตและขนบประเพณี แบบดั้งเดิม ของชาวบ้าน เนื่องจากสภาพทาง เข้าบ้านม้ง เป็นลูกรัง และ มีความสูงชันตลอดทาง จึงจำเป็นต้อง ใช้รถ ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
- น้ำตกดีหมี
- วัดโป่งแยงนอก
- วัดโป่งแยง