E - Ticket การจองตั๋วเครื่องบิน

ค้นหาเที่ยวบินกับ Booking.com
ส่วนท่านที่ต้องการทำจองตั๋วเครื่องบิน เพื่อยื่นวีซ่า คลิก!

 

การจองซื้อตั๋วเครื่องบิน

1. ติดต่อผ่านสำนักงาน ของ สายการบิน ที่ท่านต้องการ โดยตรง วิธีนี้เป็นวิธีที่ เหมาะ สำหรับ ผู้ที่อยู่ใกล้ สำนักงาน สายการบิน แต่มีข้อเสียคือ ท่านจะ ซื้อตั๋ว ในราคาเต็ม ตามหน้าตั๋ว เท่านั้น

2. สั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ ของสายการบิน ที่ท่านต้องการ เดินทาง วิธีนี้ท่านไม่จำเป็น ต้อง เดินทางไป ที่สำนักงาน สายการบิน เมื่อต้องการซื้อตั๋ว แต่ท่านต้องไป รับตั๋วด้วยตนเอง และ จะซื้อตั๋วได้ ในราคาเต็มตามหน้าตั๋ว เช่นกัน

3. สั่งซื้อผ่านบริษัท ตัวแทนทั้งหลาย มีทั้งเล็กใหญ่ ให้เลือกมากมาย พร้อมการบริการส่งตัวตั๋ว และ รับชำระเงินซึ่งราคา ก็จะถูกกว่า พร้อมพนักงาน ที่จะอำนวย ความสะดวกให้

ถ้าถามว่าเป็นไปได้อย่างไร จะขายถูกกว่า มีบริการมากกว่า ตัวบริษัท แอร์ไลน์ เหตุผลง่ายที่สุดและเข้าใจง่ายคือ แอร์ไลน์ หรือ สายการบิน (Airlines) นั้นๆ ต้องการให้เป็นแบบนี้ ส่วนราคาใครจะถูกกว่ากัน ก็จะไปอยู่ที่ข้อตกลงกับทาง สายการบิน รูปแบบบริการ ที่นำมาเสนอให้กับลูกค้า

4. สั่งซื้อผ่านบริษัท ตัวแทนจำหน่าย ทั้งหลาย ที่ได้นำ ระบบ ออนไลน์ มาให้บริการ อีกทั้งระบบ ของสายการบิน ได้นำตั๋ว E- Ticket มาใช้ อย่างเป็นทางการ มากขึ้น และเรา Plan-Travel.com ก็คือข้อ 4 นี้เอง แล้ว E-Ticket คืออะไรต่างจากอดีตอย่างไร ไปดูกัน

(update เดี๋ยวนี้จองผ่าน หน้าเว็บ Airlineได้ราคาถูก แต่คุณ ต้องมี ความเชี่ยวชาญในการจองตั๋วเครื่องบิน รู้ว่าอะไร เป็นอะไร เวลามีปัญหา จะได้รู้ว่าไปจัดการกับอะไรที่ไหน!)

การจอง และซื้อ ตั๋วเครื่องบิน ต้องทำอย่างไรบ้าง

เราต้องรู้อะไรบ้าง ก่อนจะไปซื้อ ตั๋วเครื่องบิน กรณีที่ต้องติดต่อ บริษัท ตัวแทน ขายตั๋วเครื่องบิน หรือ Travel Agent เพื่อจอง ตั๋วเครื่องบิน เราควรจะต้อง ให้ข้อมูลอะไรบ้าง กับ บริษัท ตัวแทน ทั้งหลายที่เราติดต่อด้วย

1. จุดหมายปลายทาง บอกสถานที่ ที่ต้องการจะไป ประเทศ และ เมืองอย่างละเอียด ชัดเจน เพื่อป้องกัน ความผิดพลาด ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะบางเมือง ชื่อซ้ำกัน แต่อยู่กัน คนละประเทศ

2. รายละเอียดวันเวลาที่เราจะเดินทาง ไปเมื่อไร จะกลับเมื่อไร สายการบิน ที่ต้องการใช้บริการ (อาจเป็นความชอบ ส่วนตัวคุณ) จำนวนตั๋วกี่ที่นั่ง ต้องการ เดินทาง ชั้นไหน เช่น ชั้นธรรมดา ชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง สามารถยืดหยุ่นวันและ เวลาเดินทางได้ หรือไม่ เช่น ต้องการเดินทาง ระหว่างวันที่... เพราะบางครั้ง การปรับเลื่อนเวลา หรือ วันเดินทางเร็วขึ้น หรือช้า ลงเพียง เล็กน้อย มีผลมาก ต่อราคา ตั๋วเครื่องบิน (เกิดไปตรงกับ ช่วงโปรโมชั่น ก็จะได้ราคาถูกกว่าปกติ เป็นต้น)

3. ชื่อ นามสกุลของผู้เดินทางทั้งหมด สะกดถูกต้อง ตรงตามหนังสือเดินทาง (สะกดผิด เดี๋ยวจะไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน)

4. เบอร์โทรศัพท์ ที่ติดต่อได้สะดวก, อีเมล์ หรือ เบอร์แฟกซ์ เพื่อ ให้ทางบริษัทตัวแทนฯ สามารถ ส่งข้อมูล การทำจองตั๋ว เครื่องบิน และ ตั๋ว E-Ticket ให้เราได้ และ ถ้าเที่ยวบินยกเลิก หรือ ล่าช้า ทางบริษัทฯ หรือ สายการบิน จะได้แจ้ง ให้เราทราบได้

5. ข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับ ตัวเราหรือผู้เดินทาง (ไม่ใช่ข้อมูลลับส่วนตัวนะ)

  • อาหารการกิน ปากท้อง เรื่องสำคัญ โดยปกติ แต่ละ สายการบิน จะมีรายการอาหาร ให้เลือกได้ 1 รายการ จาก 2 หรือ 3 รายการที่มีให้เลือก แต่ถ้า ต้องรับประทาน อาหาร ที่ต้องควบคุมเป็นพิเศษ เช่น อาหารเจ อาหาร มังสวิรัติ หรืออื่นๆ ต้องแจ้งให้ บริษัท ตัวแทนฯ ทราบ มิฉะนั้น ท่านจะ ได้กินตามที่สายการบิน มีให้บริการเท่านั้น
  • ที่นั่งบนเครื่อง ชอบที่นั่ง ตรงไหน ริมหน้าต่าง ริมทางเดิน หรือ มีเลขที่นั่ง ในดวงใจ ก็บอกไปได้เลย แต่จะได้หรือ ไม่ได้ตามที่ขอ ว่ากันอีกที
  • หมายเลขสมาชิก สะสมไมล์ การเดินทาง เพื่อสะสมไมล์ การเดินทางแต่ละครั้ง (ถ้ามี) หากลืมบอก กับบริษัท ตัวแทนฯ สามารถแจ้ง กับเจ้าหน้าที่ เช็คอินได้ ( ควรเก็บ บัตรขึ้น เครื่อง หรือ Boarding Pass ไว้ทุกครั้ง เพื่อเป็น หลักฐาน เปรียบเทียบ กับใบแจ้งไมล์ สะสม ว่าครบถ้วน ถูกต้อง หรือไม่ )

6. เมื่อทางบริษัทฯตัวแทนขายตั๋วเครื่องบิน ส่งข้อมูล การทำจองมา ให้แล้ว ให้เราทำการตรวจเช็ครายละเอียดต่าง ๆ ชื่อ-นามสกุล,วัน เวลา สถานที่ ที่เดินทาง,สายการบิน,ราคา ว่าถูก ต้อง หรือไม่ ถ้าตรงไหนไม่ถูกต้อง ให้รีบแจ้งกลับไป เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง (อย่าช้า)

7. หลังจากตรวจเช็ค รายละเอียด ทุกอย่างถูกต้องแล้ว ก็ทำการ จ่ายเงินกัน ตามรูปแบบที่ได้ตกลง กันกับทางบริษัทฯ เพื่อทางบริษัทฯ จะได้ทำการออกตั๋วให้ ซึ่งลักษณะ ของตั๋ว ที่ได้อาจจะเป็น E- Ticket หรือ Paper Ticket (ตั๋วที่เป็นเล่ม)

8. รับตั๋วกันตามรูปแบบ ที่ตกลงกัน กับทางบริษัทตัวแทนฯ

9. ได้รับตั๋วเครื่องบิน จากทางบริษัทฯ ให้ทำการตรวจ เช็คตั๋วอีกครั้ง ชื่อ-นามสกุล และ รายละเอียด การเดินทาง เป็นอะไรที่สำคัญ ต้องเช็คอย่างละเอียดรอบคอบ ในกรณีที่ตั๋วเป็น E-Ticket ให้ตรวจ เช็ค รายละเอียดตั๋วเครื่องบิน ที่ทาง บริษัทฯส่งมาให้ว่า มีเลขที่ตั๋ว ของทางสายการบิน 13 หลักหรือไม่ ถ้ายังไม่มีเลขที่ตั๋ว แสดงว่าตั๋ว ยังไม่ได้ทำการออก เราไม่สามารถ เดินทางได้ (บางครั้ง การดำเนินงาน ของบริษัทฯ อาจมีการล่าช้า เนื่องจาก มีผู้ใช้บริการมาก)

ตั๋วเครื่องบิน e-ticket

E-Ticket ดีอย่างไร ?

1. สะดวกในการซื้อขาย ระหว่างบริษัท ตัวแทนฯ Travel Agent และ ผู้โดยสาร สามารถเลือกวิธีการรับตั๋ว E-Ticket ได้หลายวิธี เช่น อีเมล์, sms, แฟกซ์

2. หมดปัญหาเรื่องตั๋วหาย หรือลืมตั๋ว

3. สามารถเดินทางโดย ไม่ต้องถือ ตั๋วเครื่องบิน ก็เพราะมันเป็น ตั๋วอัจฉริยะ เมื่อออกตั๋วแล้ว ข้อมูล จะถูกส่งไป ที่สายการบิน ทันที เมื่อไปเช็คอินตั๋ว ของเราก็จะปรากฏ ที่หน้าจอ คอมพิวเตอร์ ของสายการบิน อัตโนมัติ

4. ราคาถูกกว่าตั๋วเครื่องบิน ที่ออกเป็นตั๋วกระดาษ

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า E-Ticket ที่ซื้อมา จาก บริษัท ตัวแทนฯ ทั้งหลายนั้นเป็น E-Ticket ของจริง หรือไม่ จะได้บินชัวร์ ก็เสียเงินไป เป็นหมื่น เป็นแสน แล้วได้มาแค่กระดาษหนึ่งใบ เป็นคำถามที่ดี เราสามารถ เช็คได้ไม่ยาก

E-Ticket คืออะไร? หมายถึงอะไร?

E-ticket หรือชื่อเต็มๆว่า electronic ticket น่าจะเรียก เป็นภาษาไทยได้ว่า ตั๋วอัจฉริยะ ที่เชื่อมต่อข้อมูลกัน เป็นเครือข่าย เป็นตั๋วเครื่องบิน แห่งยุคเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนจาก ตั๋วเครื่องบินเล่มเล็กๆ มาเป็น E-Ticket

ที่เมื่อสั่งพิมพ์ออกมา จะเป็นเพียง กระดาษหนึ่งใบ การบินไทย เป็น สายการบินแรก ในเมืองไทย ที่นำระบบ E-Ticket มาใช้ ให้บริการเส้นทาง ภายในประเทศเมื่อประมาณปี พ.ศ.2546

จากนั้น ก็ขยายเป็นเส้นทาง ระหว่างประเทศ ของสายการบินไทย และ สายการบินอื่นๆ (ที่ต่างประเทศใช้ E-Ticket ก่อนบ้านเรา) ปัจจุบัน ยังคงมีบางสายการบินที่ยังคง ใช้ตั๋วเล่ม แบบเดิมอยู่ในบางเส้นทาง แต่ก็มีน้อยมาก

ที่ทำการจองตั๋ว E-Ticket จะมีอยู่ 3 รายใหญ่ๆ โดยการ จองผ่าน ดังนั้นให้คุณสอบถาม กับคนที่คุณออกตั๋วว่า ออกโดยระบบอะไร

จอง ผ่านระบบกาลิเลโอ Galileo, จอง ผ่านระบบอมาเดอุส Amadeus, จอง ผ่านระบบอบาคัส Abacus คุณสามารถ ตรวจสอบ ข้อมูลได้ที่ด้านล่างนี้

Share facebook posttwitter postline post
ถามผ่าน facebook ถามline คุยผ่าน

ติดต่อเรา