
ปลั๊ก,กระแสไฟ World
บอร์ดดิ้งพาส หรือ บัตรที่นั่ง (Boarding Pass) เป็นเอกสารที่ อนุญาตให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องบิน สำหรับเที่ยวบินนั้นๆได้ แล้วเราจะได้รับบอร์ดดิ้งพาสเมื่อไหร่ คำตอบคือ
บอร์ดดิ้งพาสจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนสำหรับสายการบิน และส่วนสำหรับผู้โดยสาร (แต่ถ้าเป็น E-boarding pass จะไม่ได้แยกส่วนกัน) ซึ่งตอนที่เราได้รับ บอร์ดดิ้งพาสมานั้น จะมีทั้ง 2 ส่วน
รายละเอียดบนบอร์ดดิ้งพาส นอกจาก นามสกุลและชื่อ (Passenger) ของเราแล้ว ยังบอกอะไรเราอีกบ้าง
คำเตือน:
อย่าเปิดเผย หรือนำข้อมูลของ Boarding pass ไปแสดงบนโลกออนไลน์ (อย่าให้คนอื่นเห็น) เพราะผู้ที่ไม่หวังดี จะนำข้อมูลใน Boarding pass ไปทำการ login เข้าสู่ระบบ ทำให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดของคุณ และยังสามารถแก้ไข ข้อมูลได้อีกด้วย
ขณะเช็คอิน ที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน เพื่อทำการโหลดกระเป๋า ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะ หยอกล้อเล่นกัน หรือพูดถึง ระเบิด หรือ ไวรัสโควิด19 หรือ เครื่องบินจะตก หรือ อื่นๆที่เกี่ยวข้อง กับอันตราย ของในกระเป๋าเดินทาง เพราะอาจเกิดปัญหาได้ ทางที่ดีที่สุด อย่าพูดถึงดีกว่า!!! (โทษจำคุก 5-15ปี ปรับ 200,000-600,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
Boarding Pass ของแต่ละสายการบินจะหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่ข้อมูลในนั้นเหมือนกัน
ผู้โดยสารที่ไม่มีบอร์ดดิ้งพาส และ บัตรประจำตัวประชาชน (สำหรับการเดินทางภายในประเทศ) หรือพาสปอร์ต (สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ) แสดงต่อ เจ้าหน้าที่ ที่อยู่ด้านหน้าทางเข้า ส่วนผู้โดยสารขาออก จะไม่ได้รับอนุญาต ให้เข้าไปข้างใน
เมื่อเราไปถึงยังหมายเลขประตูทางออกขึ้นเครื่อง ของเที่ยวบินนั้นๆ เจ้าหน้าที่ที่ประตูทางออกนั้น จะตรวจเช็ค บอร์ดดิ้งพาส และบัตรประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ต ของผู้โดยสารอีกครั้งว่า ข้อมูลถูกต้องตรงกัน ทั้งผู้โดยสาร และรายละเอียดบน บอร์ดดิ้งพาสกับ บัตรประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ต ถ้าหากถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะฉีกบอร์ดดิ้งพาส ที่เป็นส่วนของสายการบินเก็บไว้ และคืนส่วนที่เป็นของผู้โดยสาร พร้อมทั้ง บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง คืนกลับมาให้เรา
เราควรจะต้องแสดงบอร์ดดิ้งพาส ให้กับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือ ที่เราเรียกกันง่ายๆว่า แอร์โฮสเตส(ผู้หญิง) หรือสจ็วต(ผู้ชาย) ดูเมื่อเราขึ้นไปถึง ประตูทางเข้าเครื่องบิน เพื่อให้เขารู้ว่า เที่ยวบินที่เราจะไปนั้น ตรงกับเครื่องบิน ที่เราขึ้นมาหรือไม่ และเราได้ที่นั่งหมายเลขอะไร ซึ่งเขาจะได้บอกเราว่า ที่นั่งของเราอยู่ตรงไหน เมื่อเราได้นั่งที่เรียบร้อยแล้ว จึงค่อยเก็บบอร์ดดิ้งพาส
ถ้าหากเราได้ขออาหารพิเศษไว้ (Special Meals) เช่น อาหารมังสวิรัต หรือ อาหารเด็ก เป็นต้น เราควรจะนั่งให้ตรง กับหมายเลขที่นั่ง ที่ระบุไว้บนบอร์ดดิ้งพาส เพื่อที่พนักงาน จะได้นำอาหารมาส่งให้เราได้อย่างถูกต้อง (สำหรับการขออาหารพิเศษ ผู้โดยสารจะต้องแจ้ง ทางสายการบินล่วงหน้า อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนกำหนดเดินทาง ทั้งนี้ระยะเวลาการแจ้งล่วงหน้า และประเภทของอาหารพิเศษ ของแต่ละสายการบิน จะแตกต่างกัน)
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เดินทางควรรู้
ตามปกติแล้ว เจ้าหน้าที่เช็คอิน จะทำการชั่งน้ำหนักกระเป๋า ที่จะโหลดใต้เครื่อง พร้อมกับพันแถบบาร์โค้ด ที่บริเวณ หูหิ้วกระเป๋าเดินทาง และจะต้องมอบแท็กกระเป๋า เป็นบาร์โค้ดเล็กๆ คืนกลับมาให้ เท่ากับจำนวนกระเป๋า ที่เราเช็กอินไป กระเป๋า 1 ใบ ต้องได้แท็ก 1 ใบ บ้างก็จะแปะ แท็กกระเป๋ากลับมา ให้บริเวณด้านหลังของบอร์ดดิ้งพาส บ้างก็จะแปะไว้ให้ที่ปกหน้า หรือปกหลังของพาสปอร์ต หรือ อาจจะแยกมาเป็นแผ่นกระดาษอีกใบ กรณีถึงปลายทาง แล้วสัมภาระที่โหลดมาล่าช้า หรือสูญหาย ผู้เดินทาง สามารถใช้บาร์โค๊ดนั้นไปติอต่อที่เคาน์เตอร์ Lost & Found ณ สนามบินปลายทางนั้นได้เลย เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ติดตาม สัมภาระคืนแก่ผู้เดินทางต่อไป