บอร์ดดิ้งพาสคืออะไร?
การดูดอกซากุระบาน เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ของชาวญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นนิยมไปปิกนิก ใต้ต้นซากุระ เพื่อดื่มด่ำกับความงาม ของดอกซากุระที่บานอยู่บนต้น เมื่อมีลมพัดมา กลีบดอกที่แก่ ก็จะค่อยๆปลิวลงมา เราก็จะได้เห็นความงาม ของดอกซากุระไปอีกแบบ
ต้นเชอร์รี่หรือต้นซากุระในญี่ปุ่นนั้น มีมากกว่า 600 สายพันธุ์ สีของกลีบดอก เริ่มตั้งแต่ชมพูออกขาว ไปจนถึงสีชมพูเข้ม กลีบดอกก็เริ่มตั้งแต่ 5 กลีบไปจนถึง 50 กลีบซ้อนกัน ช่วงเวลาที่ดอกบานก็แตกต่างกัน และเชื่อว่าต้นซากุระบ้างต้น มีอายุกว่า 1,000 ปี
ต้นซากุระที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น คือ พันธุ์เชอร์รี่โยชิโน (Somei Yoshino or Yoshino Cherry) ดอกเป็นสีชมพูอ่อนๆ มีกลีบดอกเพียงแค่ 5 กลีบ ซากุระพันธุ์นี้จะบานช่วง ปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน ต้นที่มีชื่อเสียงและมีอายุมากกว่า 100 ปี อยู่ที่สวนฮิโรซากิ (Hirosaki Park) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori Prefecture)
ต้นเชอร์รี่ป่า (Yama-zakura or Hill Cherry) เป็นซากุระที่พบเห็นได้มากตามเชิงเขาต่างๆ ในช่วงต้นเดือนเมษายน ที่ดอกเริ่มบาน เราก็จะเห็นตุ่มใบอ่อนสีแดง แซมอยู่กับดอกสีชมพูออกขาว ก็จะเป็นความงามอีกแบบหนึ่ง สถานที่ยอดนิยมในการดูซากุระพันธุ์นี้ เช่น ภูเขาโยชิโนะ (Mount Yoshino / Yoshinoyama) ในจังหวัดนารา (Nara Prefecture)
ต้นซากุระที่เชื่อว่ามีอายุกว่า 1,000 ปี คือ ซากุระพันธุ์ชิดาเระ (Shidare-zakura or Weeping Cherry Tree) เป็นซากุระที่ออกดอกห้อยเป็นพวงระย้าลงมาเหมือนน้ำตก พบมากทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู เช่น จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima Prefecture)
สัญลักษณ์การบานและร่วงโรย ของดอกซากุระญี่ปุ่นนี้ ได้แนวคิดมาจาก หลักพุทธศาสนา ในเรื่องที่ว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ ไม่มีอะไรถาวร ทุกอย่างเมื่อเกิดแล้ว สักวันก็ต้องดับไป
"ดอกซากุระที่ญี่ปุ่นจะเริ่มบานจากทางใต้ ของประเทศ ในช่วงกลางเดือนมกราคม จนถึง สัปดาห์ที่สอง ของเดือนกุมภาพันธ์ ที่โอกินาวา จังหวัดใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น จากนั้นก็จะเว้นช่วงไปเริ่มบานอีกครั้ง ตอนปลายเดือนมีนาคม ที่เมืองคะโงะชิมะ ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู และค่อยๆบานไล่ขึ้นไปทางเหนือ ต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ที่เมืองซัปโปโร ของเกาะฮอกไกโด"
เกาะชิโกะกุ (Shikoku Islands)
เป็นเกาะที่เล็กที่สุดในบรรดาสี่เกาะหลักของญี่ปุ่น ดอกซากุระ จะเริ่มบาน ปลายเดือนมีนาคม (ประมาณวันที่ 26 มี.ค.) และ คาดว่า จะบานเต็มที่ช่วงต้นเดือนเมษายน (ประมาณวันที่ 3-6 เม.ย.)
มัตสึยาม่า (Matsuyama):
มัตสึยาม่า เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชิโกะกุ (Shikoku Region) และเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime Prefecture) ใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของปราสาทมัตสึยาม่า (Matsuyama Castle) และในเมืองนี้ยังมีออนเซน หรือ ห้องอาบน้ำร้อน ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ชื่อว่า ออนเซนโดโงะ (Dogo Onsen)
- ปราสาทมัตสึยาม่า (Matsuyama Castle):
ปราสาทมัตสึยาม่า เป็นปราสาทดั้งเดิม ที่ยังหลงเหลืออยู่ นับตั้งปี พ.ศ. 2411 ปราสาทนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา สูง 132 เมตร มองลงมาเห็นวิวเมืองและทะเลปิดเซโตะ (Seto Inland Sea) รอบๆปราสาทมีต้นซากุระปลูกอยู่จำนวนมาก จึงเป็นที่เหมาะ สำหรับดูซากุระอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
เนื่องจากปราสาทมัตสึยาม่านั้นอยู่ใจกลางเมือง จึงเดินทางไปได้สะดวก การขึ้นไปชมปราสาทนั้นไปได้ 2 วิธี คือ ใช้บริการกระเช้า หรือ เก้าอี้ลิฟต์ สถานีรถรางที่ใกล้จุดขึ้นกระเช้า และ เก้าอี้ลิฟต์ คือ สถานีโอไกโด (Okaido Station)
การไปสถานีนี้ก็ไม่ยาก เพียงแค่นั่งรถรางสาย 5 จากสถานีรถไฟ เจอาร์มัตสึยาม่า (JR Matsuyama Station) ไป 10 นาที แต่ถ้ามาจากสถานีรถไฟใต้ดิน มัตสึยาม่า-ชิ (Matsuyama-shi Station) ให้นั่งรถรางสาย 2 หรือ 3 จะใช้เวลา 5 นาที ก็จะถึงสถานีโอไกโด (Okaido Station)
เกาะฮอกไกโด (Hokkaido Islands)
เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เพราะฤดูทั้ง 4 ที่เกาะฮอกไกโดมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้มีทัศนียภาพ กิจกรรม และอาหารที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป จึงดึงดูดนักท่องเที่ยว ได้มากมายในทุกๆปี ทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ ที่เกาะฮอกไกโดดอกซากุระจะเริ่มบาน ปลายเดือนเมษายน (ประมาณวันที่ 29 เม.ย.) และคาดว่าจะบานเต็มที่ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม (ประมาณวันที่ 2-5 พ.ค.)
มัตสึเมะ (Matsumae):
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนแหลมชิราคามิ (Cape Shirakami) ซึ่งอยู่ใต้สุดของเกาะฮอกไกโด แต่เคยเป็นเมืองเหนือสุด ของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ
- สวนมัตสึเมะ (Matsumae Park):
สวนนี้อยู่บริเวณแหลมชิราคามิ (Cape Shirakami) ซี่งอยู่ใต้สุด ของเกาะฮอกไกโด ในสวนแห่งนี้มี ซากุระมากถึง 250 สายพันธุ์ รวมแล้วมากกว่า 10,000 ต้น
จุดชมดอกซากุระของสวนนี้ จะอยู่บริเวณเนินเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ปราสาทมัตสึเมะ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ปราสาทฟูคุชิมา (Matsumae Castle or Fukushima Castle) ซากุระที่นี่จะบานช่วง ปลายเดือนเมษายน ถึง ลางเดือนพฤษภาคม
ฮาโกดาเตะ (Hakodate):
เป็นเมืองท่าแห่งแรกของญี่ปุ่น ตามสนธิสัญญาสัมพันธมิตร ระหว่างอเมริกาและญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2397 ปัจจุบัน จึงมีสถาปัตยกรรม ตะวันตกหลงเหลืออยู่ และยังเป็น เมืองที่ได้ชื่อว่า มีทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามติดอันดับโลก
- ป้อมโงเรียวกาคุ (Goryokaku Fort):
เป้อมโงเรียวกาคุ เป็นป้อมที่สร้างตามสไตล์ตะวันตก มีลักษณะเป็นรูปดาวห้าแฉก ซึ่งสร้างขึ้นในปีสุดท้าย ของสมัยเอโดะ (Edo Period)
ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ของเมืองฮาโกดาเตะ ( Hakodate) บริเวณใกล้ๆป้อมโงเรียวกาคุ จะมีหอสูงให้นักท่องเที่ยว ขึ้นไปชม ความงามของป้อมจากมุมสูง รวมทั้งความสะพรั่งของ ดอกซากุระมากกว่า 1,000 ต้น ในฤดูซากุระ
การเดินทางไปป้อม จากสถานีรถไฟฮาโกดาเตะ (Hakodate Station) ให้ขึ้นรถรางไปลงที่ ป้ายโงเรียวกาคุ โคเอ็น มาเอะ (Goryokaku Koen Mae) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 230 เยน และเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที +
Note: ค่าโดยสารและค่าเข้าชม สามารถเปลี่ยนแปลงได้